พัฒนาความรู้คู่คุณธรรม สร้างนวัตกรรมด้านนาฏศิลป์และการแสดง สู่ชุมชน ผลิตพัฒนากำลังคนด้านนาฏศิลป์และการแสดง สมรรถนะการทำงาน โดยการจัดสหกิจศึกษาและการบูรณาการกับการทำงาน รองรับการพัฒนาท้องถิ่นประเทศ

1. มีความรู้ด้านพื้นฐานนาฏศิลป์และการแสดงเบื้องต้น สามารถบูรณาการสู่การสร้างนวัตกรรม เพื่อการประกอบอาชีพ การปฏิบัติการแต่งกาย แต่งหน้าในการแสดง มีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และพัฒนาการศึกษาในระดับสูงต่อไป
2. มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านนาฏศิลป์และการแสดง สามารถวิเคราะห์ท่าทาง และการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง มีความละเอียดรอบคอบ ใช้การประยุกต์ท่าทาง สามารถเป็นทีมได้
3. มีความรู้ทางด้านการแสดงเพิ่มมากขึ้น เริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถจัดการแสดงเบื้องต้น การประดิษฐ์ ออกแบบ ท่าทางการแสดงได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง มีทักษะและวิเคราะห์แก้ไขปัญหา จากการลงมือจัดการแสดงแบบท่าทาง สรุปผลงาน เพื่อนำไปปรับปรุง มีความคิด วิจารณญาณและเชาว์ปัญญาในการวิเคราะห์ แก้ปัญหาและสามารถปรับตัวให้ทันกับความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยี เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการแสดงนาฏศิลป์และการแสดง ให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้
4. นักศึกษามีความรู้ ความสามารถจัดรูปแบบการแสดงได้เอง สามารถปฏิบัติจัดการแสดงสร้างนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าแสดงออก แก้ไขปัญหาตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางนาฏศิลป์และการแสดงได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ มีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี

1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า จากสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง
2. ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ของสำนักงานปลัดกระทรวงคณะกรรมการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ/หรือเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ.2563
3. ผ่านการคัดเลือกโดยวิธีรับตรงตามระเบียบของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

หลักสูตรสาขาวิชานาฏศิลป์และการแสดง มีจำนวนหน่วยกิตตลอดหลักสูตรรวม 136 หน่วยกิต เป็นหลักสูตรที่ผลิตบัณฑิตให้มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์และการแสดง สามารถทำงานในหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน หรือประกอบอาชีพอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีความรู้อย่างกว้างขวาง ได้รู้จักการเข้าหาบุคคลสำคัญ ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทั้งยังเป็นการฟื้นฟู อนุรักษ์ สืบสาน ทำนุบำรุง และเผยแพร่ความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย